วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

SHITANGMAY

สเต็ก ชิตังเม  



          หลายคนกลัวการไปกินสเต็กในร้านอาหารฝรั่ง กลัวจะสั่งผิดบ้างอะไรบ้าง จริงๆแล้วความเคอะเขินไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ  แต่หากคุณได้ไปลองลิ้มชิมรสชาติอาหารที่ไม่คุ้นปากบ้าง ก็น่าจะสามารถเติมสีสันให้ชีวิตได้บ้าง  เมื่อพูดถึงสเต็ก เราคงนึกถึงร้านสเต็กก่อน ร้านที่ดังๆและผู้คนรู้จักกันดี ก็เช่น ร้านโชคชัย และร้าน 13 เหรียญ ร้าน Sizzler ร้านพวกนี้ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Steakhouse คำว่า Steak นั้น จริงๆแล้ว หมายถึง ชิ้นเนื้อสัตว์ ที่เราตัดเป็นชิ้นพอดีๆแล้วนำมาปรุงให้สุก ส่วนมากจะใช้วิธีการ grill (แปลว่าย่างๆปิ้งๆ) วิธีการทำสเต็ก สามารถใช้เนื้อสัตว์อะไรก็ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว  เนื้อลูกวัว  เนื้อหมู  เนื้อไก่ หรือ เนื้อปลา  เพราะฉะนั้นดิฉันขอแนะนำให้คุณทั้งหลายได้รู้จักกับ ชิตังเมสเต็ก ร้านสเต็กชื่อดังย่านมหาวิทยาลัยรังสิต 

                               

                 


           สเต็กชิตังเมใช้เนื้อวัวเกรด Choice ซึ่งเป็นเกรดที่คุณภาพดี เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะไม่เน้นคุณภาพ แต่เน้นที่รสชาติเป็นหลัก อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อได้อย่างดี ก็คือ ไขมันในเนื้อวัว ที่เรียกว่า Marbling  อาจจะคุ้นกับคำนี้อยู่ไม่น้อยใช่ไหมคะ เพราะมันมาจากคำว่า Marble ที่แปลว่าหินอ่อน พอจะนึกออกไหมคะว่า ไขมันสีขาวๆในเนื้อวัวสีแดงๆ มันจะดูคล้ายกับลายหินอ่อนเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนว่า การที่เนื้อวัวมีไขมันแซมๆอยู่จะทำให้รสชาติของเนื้อดีขึ้น ไม่จืดชืดจนเกินไป



          สเต็กเนื้อวัวประเภทแรกที่จะแนะนำก็คือ ริบ - สเต็ก (Rid Steak) หรือที่คนไทยชอบเรียกจนติดปากว่า ริบอายสเต็ก เป็นเนื้อส่วนที่ติดกับซี่โครง (คำว่า Rib แปลว่าซี่โครง) จะมีลักษณะเป็นชิ้นเนื้อแบนกลม และโค้งเว้าไปตาม shape ของกระดูกซี่โครง จึงได้ชื่อว่า Rib-eye หรือ “ ตา ” ของซี่โครงนั่นเอง เนื้อส่วนนี้เป็นส่วนที่คนชอบกันมาก เพราะมี ไขมันแซมเยอะ ทำให้รสชาติหวานอร่อย เวลาย่างไขมันจะค่อยๆละลายออกมาผสมกับเนื้อ ทำให้เนื้อมีความ ชุ่มชื้น ที่สำคัญริบอายสเต็กยังเป็นเมนูที่นิยมที่สุดในร้านชิตังเมสเต็กอีกด้วย




         เนื้อสเต็ก อีกประเภทหนึ่งที่เป็นที่นิยม ก็คือ เนื้อเซอร์ลอยน์ (Sirloin) ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “เนื้อสันนอก” แต่ต้องขอบอกก่อนไว้เลยนะคะว่า ในบรรดาเนื้อคุณภาพดีทั้งหมดนั้น เนื้อส่วน Sirloin ถือว่ามีราคาถูกที่สุด แต่จริงๆแล้ว ก็ยังจัดว่าแพงอยู่ดี เพราะเป็นส่วนที่วัวได้ออกกำลังบ้าง จึงมีความเหนียวอยู่เล็กน้อย 





         สุดท้ายแล้วเนื้อสเต็กอีกประเภทที่คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก นั่นก็คือ ทีโบน (T-Bone) ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า T-Bone ก็เพราะว่าเนื้อชนิดนี้จะติดมากับกระดูกที่มีลักษณะเหมือนตัวอักษรตัว T  พอจะนึกภาพออกไหมคะ คือมันจะมีเนื้อติดมากับทั้งสองด้านของกระดูกตัว T โดยด้านหนึ่งจะเป็นเนื้อชิ้นเล็กซึ่งเป็นเทนเดอร์ลอย ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ ก็คือเนื้อส่วนสคริปลอยนั่นเอง  ลองคิดดูแล้วกันนะคะว่า เนื้อส่วนทีโบน ที่ประกอบไปด้วยเนื้อที่มีราคาแพงที่สุดทั้งสองส่วน จึงไม่แปลกใจเลยว่า ราคาของ ทีโบนสเต็กนั้นจะสูงตามไปด้วย 

          หลังจากที่เราทราบกันไป แล้วว่ามีสเต็กอะไรที่น่าสนใจบ้างแล้ว ดิฉันขอมาคุยกันเรื่องการสั่งสเต็กที่หลายๆคนกังวลกันดีกว่า ซึ่งร้านชิตังเมมีความเป็นกันเอง คุณๆสามารถสั่งสเต็กได้อย่างสบายใจ เพราะพนังงานที่ร้านเป็นกันเองแบบสุดๆไปเลย แต่ไหนๆแล้ว ดิฉันก็จะแนะนำวิธีการสั่งสเต็กแบบคร่าวๆ เพื่อเป็นข้อแนะนำให้กับทุกคนนะคะ อันดับแรกพนักงานจะถามว่า จะทานอะไรดีครับ/ค่ะ ท่านก็ควรตอบไปให้ชัดเจนว่า อยากจะสั่งอะไรทาน เช่น ดิฉันขอเป็นริบอายสเต็กหนึ่งที่ละกันนะครับ/ค่ะ แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้นะคะ พนักงานจะถามท่านต่อว่า ต้องการความสุกระดับไหนดีคะ ก็ให้คุณบอกความสุกที่คุณต้องการไปเลยคะ

          มาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักระดับความสุกแบบแน่ชัด ก็ขอบอกเลยว่าระดับความสุขนั้นมีดังนี้คะ




           ขอแนะนำสูตรการทำสเต็กแบบง่ายๆ สูตรนี้ก็เป็นสูตรที่สามารถ หมักได้กับเนื้อทุกอย่างเลยค่ะ ลองทำกันดูนะคะ

ส่วนผสม 

     1. เนื้อหมู 250 กรัม 
     2. เกลือ 1/2 ช้อนชา 
     3. พริกไทยเม็ดบุให้แตก 10 เม็ด 
     4. ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา 
     5. น้ำมัน 1 ช้อนกินข้าว 
     6. โซดา 1 ช้อนกินข้าว 
     7. หอมหัวใหญ่ 1 ชิ้นหั่นบางๆ 

วิธีทำ 

     1. ให้นำเนื้อหมู มาขยำเบาๆ กับ โซดา แล้วหมักไว้ 5 นาที 
     2. หลังจากนั้นให้ใส่เครื่องปรุงทุกอย่าง ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน 
     3. แล้วนำเนื้อหมูที่หมักแล้ว เข้าตู้เย็น ประมาณ 1/2 ชั่วโมง 
     4. เมื่อครบกำหนดแล้วให้ นำออกมาย่าง หรือทอดก็ได้แล้วแต่ชอบ เวลาเสริฟ ให้ใส่ผักต้ม เช่น มันฝรั่งต้ม หรือแครอทต้ม หรือข้าวโพดหวานต้มก็ได้ และขนมปังปิ้งสองแผ่น




               หวังว่าหลังจากที่ได้อ่าน Blog นี้ คงจะทำให้ทุกคนกล้าลองทานสเต็กกันบ้างนะคะ หรือถ้าเคยลองทานสเต็กบ้างแล้ว อยากจะให้ทุกคนลองสั่งเมนูแปลกๆที่ยังไม่เคยทานกัน รวมถึงอยากให้ทุกคนได้ลองลิ้มรสชาติของสเต็กแบบไม่ใส่ซอสมะเขือเทศกันดูนะคะ แล้วรู้ว่ารสชาติที่แท้จริงของสเต็กนั้นเป็นอย่างไร ขอบคุณค่ะ 













Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution 2.0 Generic License.